อาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


    เอสซีจีให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งหวังที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี  มีความสุขกับการทำงาน และมีจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จึงได้ปรับปรุงอาคารสำนักงานจนได้รับการรับรอง “ฉลากทอง” ระดับดีเด่นจากกระทรวงพลังงานในปี พ.ศ. 2552  และเป็นอาคารแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับรางวัลดังกล่าว

    นอกจากนั้น ยังได้ปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ บางซื่อ ที่ใช้งานมานานกว่า 25 ปี ให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล โดยมีเป้าหมายหลัก คือ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงาน ลดผลกระทบจากการใช้อาคาร ตามแนวทาง LEED EB: OM (The Leadership in Energy and Environmental Design for Existing Buildings: Operations & Maintenance) ซึ่งเป็นมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนี้

    1. พัฒนาที่ตั้งอย่างยั่งยืน (Sustainable Site) คำนึงถึงผลกระทบของอาคารต่อระบบนิเวศวิทยา อาทิ เลือกใช้วัสดุที่มีค่าสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์สูงเพื่อลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร  จัดสรรพื้นที่สีเขียวสำหรับปลูกต้นไม้  ออกแบบให้มีพื้นที่กักเก็บนํ้าฝนเพื่อนำนํ้าไปใช้รดต้นไม้  ป้องกันผลกระทบจากการก่อสร้าง  และลดปรากฏการณ์เกาะร้อน (Heat Island) หรือปรากฏการณ์ที่พื้นที่บริเวณกลางเมืองมีอุณหภูมิสูงกว่าบริเวณโดยรอบ  รวมทั้งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางของพนักงานด้วยการรณรงค์ให้พนักงานใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งจะมีสถานีตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ และรณรงค์ให้ใช้รถร่วมกันเมื่อเดินทางในเส้นทางเดียวกัน

    2. ใช้นํ้าอย่างมีประสิทธิภาพ (Water Efficiency) ลดการใช้นํ้าประปาในอาคารโดยเลือกใช้สุขภัณฑ์ฟลัชวาล์วและก๊อกนํ้าประหยัดนํ้าประสิทธิภาพสูง  นำนํ้าฝนหรือนํ้าเสียจากอาคารที่บำบัดแล้วไปใช้รดต้นไม้  รณรงค์ให้พนักงานช่วยกันประหยัดนํ้า และแจ้งหน่วยงานซ่อมบำรุงทันทีโดยไม่นิ่งเฉยเมื่อพบจุดรั่วไหล

    3. ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Energy and Atmosphere)  ส่งเสริมให้ใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน  เปลี่ยนระบบทำความเย็นของอาคารโดยเลือกใช้สารทำความเย็นประเภทที่ส่งผลกระทบน้อยที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าตามมาตรฐาน Energy Star และอุปกรณ์ให้แสงสว่างที่ประหยัดพลังงาน  ใช้พลังงานทดแทนด้วยการติดตั้งกระเบื้องหลังคาเซรามิกที่มีแผงผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ (Solar Cell)

    4. เลือกใช้วัสดุที่มีส่วนผสมรีไซเคิลหรือวัสดุในท้องถิ่น (Materials and Resources) เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยเริ่มตั้งแต่การคัดแยก ชนิด ประเภทของของเสียเพื่อนำกลับไปรีไซเคิล พัฒนาผลิตภัณฑ์กระเบื้องเซรามิคสำหรับปูพื้น ผนัง และฝ้าเพดานที่ใช้วัตถุดิบจากของเสียหรือผลิตภัณฑ์จากการรื้อถอนหลังการใช้งานแล้ว ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณของเสียแล้วยังช่วยลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตได้ด้วย

    5. พัฒนาคุณภาพสภาพแวดล้อมภายในอาคาร (Indoor Environmental Quality) ควบคุมมลภาวะในอาคารสำนักงานให้มีน้อยที่สุดและไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้อาคารด้วยการเลือกใช้วัสดุหรือครุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ  ควบคุมสภาวะอากาศภายในอาคารให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานโดยปรับอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ที่พอเหมาะและควบคุมปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  รวมทั้งจัดสรรพื้นที่สำหรับสูบบุหรี่ให้แยกออกไปเป็นสัดส่วน  ไม่ให้อยู่ใกล้ช่องหน้าต่าง ประตู หรือบริเวณที่เป็นช่องดูดอากาศเข้าสู่ตัวอาคาร  และยังกำหนดพื้นที่จัดเก็บวัสดุประเภทสารเคมีที่จำเป็นต้องใช้อย่างมิดชิด

    SCG08_01   SCG08_02    SCG08_03

ผลลัพธ์ :  ลดการใช้พลังงานและทรัพยากร รวมถึงใช้พลังงานและทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด