ธนาคารกสิกรมีปณิธานในการเป็นองค์กรช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม จึงได้มีนโยบายสนับสนุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของธนาคารเพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการกระตุ้นจิตสำนึกในการรักษ์โลกและร่วมดูแลโลกให้เกิดในทุกกลุ่มเป้าหมาย
โครงการ “K-ATM” ร่วมลดภาวะโลกร้อน เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ธนาคารมีความตั้งใจและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ในฐานะที่องค์กรเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม จึงได้ดำเนินโครงการดังกล่าวขึ้น ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์และเครือข่ายการบริการของธนาคาร โดยเป็นโครงการปรับปรุงตู้เอทีเอ็มของธนาคารให้เป็นตู้เอทีเอ็มที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ด้วยวิธีการลดการใช้กระแสไฟฟ้าและกระดาษสลิปใบบันทึกรายการลง เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและช่วยลดภาวะโลกร้อน
โดยธนาคารได้ลดการใช้กระแสไฟฟ้าของเครื่องเอทีเอ็มบางส่วนจากทั้งหมดประมาณ 7,500 เครื่อง จะทำการเปิด-ปิด ระบบไฟฟ้าแสงสว่างของ K-Lobby จำนวน 872 แห่ง และตู้เอทีเอ็ม แบบป้อมจำนวน 299 แห่ง จากเดิมที่เปิด 12 ชั่วโมงต่อวัน ลดเหลือ 4 ชั่วโมงต่อวัน และลดการเปิด-ปิด ระบบปรับอากาศของเครื่องเอทีเอ็มจาก 18 ชั่วโมงต่อวันเหลือ 10 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้สามารถลดการใช้ไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศลงร้อยละ 61 การลดการใช้กระแสไฟฟ้านี้ ช่วยให้ธนาคารประหยัดค่าไฟฟ้าของตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศลงได้ประมาณ 45.14 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตไฟฟ้า ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึงจำนวน 6,669 ตันต่อปี
นอกจากการลดการใช้ทรัพยากรไฟฟ้าแล้ว ธนาคารยังมีการเปลี่ยนกระดาษสลิป ใบบันทึกรายการเครื่อง K-ATM เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน รวมทั้งลดขนาดกระดาษสลิปจากเดิมขนาด 8.0x11.2 เซนติเมตร เป็นขนาดใหม่เหลือเพียง 8.0x8.5 เซนติเมตร เพื่อให้ย่อยสลายได้ง่ายไม่เป็นภาระให้กับโลก และข้อมูลที่จำเป็นสำหรับลูกค้าที่ต้องเก็บเป็นหลักฐานทางการเงินยังคงครบถ้วน ซึ่งจะช่วยลดการใช้กระดาษลงได้ประมาณร้อยละ 30 และลดค่ากระดาษสลิปเอทีเอ็มได้ถึง 25 ล้านบาทต่อปี เมื่อเทียบกับจำนวนเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรในปัจจุบันมีประมาณ 7,500 เครื่อง มีลูกค้าทำธุรกรรมทางการเงินผ่านตู้เอทีเอ็มมากกว่า 50 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งหลังจากดำเนินโครงการ “K-ATM” ร่วมลดภาวะโลกร้อน สามารถช่วยให้ธนาคารลดค่าใช้จ่ายรวมลงได้เกือบ 70 ล้านบาทต่อปี และที่สำคัญผลพลอยได้จากการดำเนินโครงการนี้จะช่วยสะท้อนสู่สังคมได้อีกทางหนึ่งเพราะเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมของโลก ผ่านนวัตกรรมการให้บริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าควบคู่ไปกับปณิธานสีเขียวเพื่อโลกสวยสะอาดสดใสอย่างยั่งยืน